NEWSROOM

  • Increase company value by investing in people
    2018-06-28 10:24:54

    จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ต้อนรับวงอินดี้สุดเจ๋งกว่า 30 วง มุ่งสร้าง Hub of Indie ภายใต้สนามหลวงมิวสิก

    ปัจจุบันนี้ตลาดเพลงอินดี้ของเมืองไทยได้เปิดกว้างและพัฒนามากขึ้น มีศิลปินอินดี้เกิดขึ้นใหม่ทุกวัน รวมถึงมีแนวเพลงหลากหลายน่าสนใจเป็นสีสันให้แก่วงการดนตรี แถมยังช่วยสนับสนุนอุตสาหกรรมดนตรีให้เติบโตยิ่งขึ้น ที่สำคัญยังเป็นการเพิ่มทางเลือกที่ดีต่อคอเพลงอินดี้ในการเลือกฟังเพลงในสไตล์ที่ตนเองชื่นชอบ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จึงไม่มองข้าม           พร้อม Re-Positioning สนามหลวงมิวสิก ให้เป็น Hub of Indie ที่จะเปิดรับและสนับสนุนศิลปินอินดี้ทุกแนวเพลง ไม่ปิดกั้นหรือจำกัดรูปแบบของแนวดนตรี ศิลปินจะได้รับอิสระในการคิด การสร้างสรรค์ผลงานต่างๆที่สามารถคงเอกลักษณ์ของตนเองเอาไว้ได้ ทั้งนี้สนามหลวงมิวสิกยังสามารถทำงานกับศิลปินอินดี้ได้ “ทุกรูปแบบ” บวกกับมี Tools ในการเผยแพร่,             ทำการตลาด แบบครบ 360 องศา เพื่อเป็นการสนับสนุนความดังของศิลปินให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นและยังช่วยให้เกิดรายได้เพิ่มให้กับศิลปินอีกหนึ่งช่องทาง

    นายภาวิต จิตรกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายธุรกิจ จีเอ็มเอ็ม มิวสิค บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เราเล็งเห็นถึงการให้โอกาสเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ถึงแม้วันนี้ศิลปินอินดี้จะมีช่องทางเป็นของตนเอง แต่ช่องทางการสนับสนุนของจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่และสนามหลวงมิวสิก ร่วมกับองค์ประกอบอื่นๆนั้นน่าจะมีประสิทธิภาพในการช่วยเผยแพร่ได้มากยิ่งขึ้น ดังนั้นเราจึงให้สนามหลวงมิวสิกได้เปิดรับศิลปินอินดี้ที่ยังมองหาโอกาสในการแสดงความสามารถทางดนตรีด้วยการทำงานใน Artist Model ที่มีหลากหลายรูปแบบดังนี้

     

    ศิลปินอินดี้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ สามารถผลิต สร้างสรรค์เพลงและมิวสิควิดีโอ ได้ด้วยตนเอง โดยมอบให้สนามหลวงมิวสิกช่วยบริหารจัดการสิทธิ์ทั้งหมด

    ศิลปินอินดี้และสนามหลวงมิวสิกร่วมกันผลิต สร้างสรรค์เพลงและมิวสิควิดีโอ โดยเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ร่วมกัน

    ศิลปินอินดี้เป็นศิลปินในสังกัดสนามหลวงมิวสิกอย่างเต็มรูปแบบ

    ศิลปินอินดี้หรือกลุ่มคนดนตรีที่ผลิต สร้างสรรค์เพลงเอง เข้ามาร่วมเป็นพันธมิตร โดยเป็นความร่วมมือระหว่างสนามหลวงมิวสิกและ Music Community นั้นๆ

     

    สำหรับ Artist Model ทุกรูปแบบนั้นทางสนามหลวงมิวสิกจะเป็นผู้ดูแลบริหารจัดการสิทธิ์ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการเผยแพร่, การประชาสัมพันธ์, การส่งเพลงให้เข้าไปอยู่ในทุกดิจิทัลแพลตฟอร์ม เช่น YouTube (ยูทูบ), JOOX (จู๊กซ์), Spotify (สปอติฟาย), Apple Music (แอปเปิ้ล มิวสิค), iTunes (ไอทูนส์) เพื่อสนับสนุนศิลปินอินดี้, เพลง, ข่าวสารให้ถูกกระจายไปถึงแฟนเพลงและเป็นที่รู้จักในวงกว้างยิ่งขึ้น ทั้งนี้ยังรวมถึงการค้าในรูปแบบของ Physical  (ฟิซิคอล),        การทำเพลงรวมฮิต, Merchandise (เมอร์ชั่นไดซ์), การแสดงสด, เพลงประกอบภาพยนตร์, เพลงประกอบโฆษณา, เพลงประกอบรายการโทรทัศน์ อีกด้วย

     

    กลยุทธ์ของสนามหลวงมิวสิก ประกอบด้วย 3 องค์ประกอบหลักๆ ดังนี้

    สนามปล่อยของ คือพื้นที่ของศิลปินอินดี้ทุกแนวดนตรีที่สามารถสร้างสรรค์ผลงานได้อย่างอิสระ ด้วยรูปแบบของ Artist Model ที่หลากหลาย และได้รับการสนับสนุนในทุกช่องทางของจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่และสนามหลวงมิวสิก   อย่างเต็มที่

     

    สนามโชว์ของ คือเวทีการแสดงความสามารถทางดนตรีของศิลปินอินดี้บนพื้นที่ที่จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่และสนามหลวงมิวสิก ได้จัดเตรียมเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็น บิ๊ก เมาท์เท่น มิวสิค เฟสติวัล, วอท เดอะ เฟส มิวสิค เฟสติวัล, สนามหลวงมิวสิก เพลย์ไทม์ รวมถึงกิจกรรมอื่นๆของพันธมิตรทางดนตรี เช่น The Knack Market (เดอะ แน็ค มาร์เก็ต) ของThe Jam Factory (เดอะแจมแฟคตอรี่), De Commune (เดอ คอมมูน) และ You2Play (ยูทูเพลย์)

     

    สนามลองของ คือพื้นที่ของจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่และสนามหลวงมิวสิก ที่ได้จัดเตรียมเอาไว้ให้กับศิลปินในสังกัดฯ ประกอบไปด้วย อพาร์ตเมนต์คุณป้า, โลโมโซนิค และ ทาบัสโก้ โดยทั้ง 3 ศิลปินยังคงสามารถสร้างสรรค์เพลงที่เป็นเอกลักษณ์ได้อิสระอย่างเต็มที่

    ความสำเร็จของสนามหลวงมิวสิก

    ความสำเร็จที่ 1 กับ 6 เดือนที่ผ่านมาที่สนามหลวงมิวสิกเปิดรับศิลปินอินดี้ทุกแนวดนตรีได้มากกว่า 30 วง อันได้แก่    (1) Ariy Shibuya (อารีย์ ชิบูย่า), (2) Benz Beantown (เบนซ์ บีนทาวน์), (3) Blues Tape (บลูส์เทป), (4) Casinotone (คาสิโนโทน), (5) Clockwork Motionless (คล็อกเวิร์ค โมชั่นเลส), (6) C/O GO! (ซีโอโก), (7) CUT THE CRAB (คัท เดอะ แครป), (8) DAJIM (ดาจิม), (9) Daniel Didyasarin (แดเนียล ดิษยะศริน), (10) Henri Dunant (อังรี ดูนังต์),                          (11) Homeless (โฮมเลส), (12) Kordyim (โคตรยิ้ม), (13) Last Fight For Finish (ลาสไฟว์ทฟอร์ฟินนิช), (14) N.Y.T.E. (เอ็น.วาย.ที.อี), (15) Phum Viphurit (ภูมิ วิภูริศ), (16) P.O.N.R (พี.โอ.เอ็น.อาร์), (17) Poomjit (ภูมิจิต), (18) Pretty Punks (พริตตี้ พังก์), (19) Sunny Day (ซันนี่เดย์), (20) Supersub (ซูเปอร์ซับ), (21) The Passion of Anna ( เดอะ แพชชั่น ออฟ แอนนา), (22) The Pisat Band (เดอะ ปีศาจ แบนด์), (23) The Superglasses Ska Ensemble (เดอะ ซูเปอร์กลาสเซส สกา อองซองเบิล), (24) Tuan Thailand ( ทวน ไทยแลนด์), (25) West Of East (เวสต์ออฟอีสต์), (26) MVL : BOTCASH :  SUNNYDAY : MINDSET ในนาม Project X (เอ็มวีแอล บอทแคช ซันนี่เดย์ มายเซ็ท ในนามโปรเจคเอ็กซ์), (27) Yaak Lab (ย๊ากแลป), (28) Yerm (เยิ้ม), (29) YOUNG MAN AND THE SEA (ยังแมนแอนด์เดอะซี), (30) ZERO HERO (ซีโร่ ฮีโร่)

     

    ความสำเร็จที่ 2 กับเพลงที่เข้าไปติดอันดับชาร์ตเพลงต่างๆ ซึ่งเกิดจากการผลักดันอย่างเต็มที่จากจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่และสนามหลวงมิวสิก ไม่ว่าจะเป็น Top 50 Indie ของ JOOX, Artist Super Room, Best of The Week และ Top Thai Chart ของ Apple Music, Top 10 Indie Chart ของ Cat Radio, อาทิ เพลงน้ำตาท่วมจอ TABASCO (ทาบัสโก้) ที่ติดอันดับ 1 ของ Top 50 Indie ของ JOOX  รวมถึง เพลงอื่นๆ เช่น เพลงปล่อย ของ Clockwork Motionless (คล็อกเวิร์ค โมชั่นเลส), เพลงก่อน ของ Supersub (ซูเปอร์ซับ), เพลงดวงจันทร์สีดำและดาวเหนือ ของ YOUNG MAN AND THE SEA (ยังแมนแอนด์เดอะซี), เพลงคนสุดท้าย ของ The Pisatband (เดอะ ปีศาจ แบนด์), เพลงชีพจร ของ Poomjit       (ภูมิจิต), เพลง Midnight Girl ของ N.Y.T.E. (เอ็น.วาย.ที.อี), เพลงที่ผ่านมา ของ Yerm (เยิ้ม), เพลงคุณนายตื่นสาย ของ The Superglasses SKA Ensemble (เดอะ ซูเปอร์กลาสเซส สกา อองซองเบิล), เพลงโคตรเก๋า ของ Last Fight For Finish x Sunny Day (ลาสไฟว์ทฟอร์ฟินนิช), เพลงเรื่องขำขำ ของ Casinotone (คาสิโนโทน),ก็ติดอันดับต้นๆในชาร์ตเพลงต่างๆเช่นกัน

    ความสำเร็จที่ 3 กับเพลงที่ถูกเลือกไปเป็นเพลงประกอบรายการและเพลงประกอบซีรี่ส์ ไม่ว่าจะเป็น เพลงให้ฉันเข้าไป ของ C/O GO! (ซีโอโก) ถูกเลือกให้เป็นเพลงประกอบรายการ Game Of Teen (เกมออฟทีน) ของ GDH (จีดีเอช), เพลงเกอิชา ของ BLUES TAPE (บลูส์เทป) ถูกเลือกให้เป็นเพลงประกอบรายการ เช่น รายการนี่เพื่อนเอง, รายการ Game Of Teen (เกมออฟทีน) และเพลงนี้ยังถูกนำไปประกอบซีรีส์เรื่อง Friend Zone (เฟรนด์โซน) เอา.ให้.ชัด ที่กำลังจะออกอากาศเร็วๆนี้ทางช่อง ONE31 (วัน31) อีกด้วย

    ความสำเร็จที่ 4 กับยอดวิวใน YouTube (ยูทูบ) ของการรับชมมิวสิกวิดีโอของศิลปินอินดี้ผ่านช่องทาง GMM Grammy Official (จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ออฟฟิเชียล) ที่มีผู้ติดตามกว่า  12 ล้าน Subscribers (ซับสไครเบอร์) รวมถึงการรับชมผ่าน Sanamluang Music Official (สนามหลวงมิวสิก ออฟฟิเชียล) ที่มีผู้ติดตาม 950,000 Subscribers จึงทำให้มิวสิกวิดีโอมีโอกาสถูกฟังและรับชมมากยิ่งขึ้น ซึ่งมากกว่าและดีกว่าที่ศิลปินจะเผยแพร่ผ่านช่องทางของตนเอง ซึ่งการเติบโตของยอดวิวทั้งหมดนั้นมีค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นถึง 81.44% แถมยังเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการช่วยศิลปินสร้างรายได้เพิ่มเติมอีกด้วย โดยเพลงที่มีค่าเฉลี่ยที่โดดเด่นที่สุดคือเพลง “ปล่อย” ของวง Clockwork Motionless (คล็อกเวิร์ก โมชั่นเลส) ที่ปัจจุบันมียอดวิวมากกว่า 18 ล้านวิว มียอดการเติบโตที่สูงกว่า 700 เท่าเลยทีเดียว

    คุณจิราภรณ์ สุมณศิริ ผู้อำนวยการฝ่าย สังกัดสนามหลวงมิวสิก เปิดเผยว่า สนามหลวงมิวสิกไม่เคยปิดกั้นรูปแบบของแนวดนตรี ไม่ว่าจะเป็นดนตรีในแบบไหน ป็อป, ร็อค, แจ๊ส, ฟังก์, พังค์, สกา, ฮิปฮอป, เมทัล เพราะสนามหลวงมิวสิกคือสนามที่ให้ศิลปินมีอิสระในการสร้างสรรค์เพลง ให้อิสระเต็มที่ลองมาคุยกันเรื่องความต้องการของแต่ละฝ่าย แลกเปลี่ยนความคิดกัน แนะนำกัน ปรับจูนกันจนได้ออกมาเป็นเพลง ขอให้มีเพลงมา มิวสิกวิดีโอจะทำมาเลย ทำเป็น Lyric Video เป็น Visual หรือจะให้เราทำมิวสิกวิดีโอให้ จะทำด้วยกันก็ได้ อย่างที่บอกรูปแบบการทำงานมันมีหลากหลายมากที่ผ่านมามีศิลปินอยู่ 4 ประเภทที่เข้ามาอยู่ด้วยกันที่สนามหลวงมิวสิก ได้แก่

     

    ศิลปินที่มาจากโครงการ Opening Act ของ Sanamluang Music Playtime (สนามหลวงมิวสิก เพลย์ไทม์)       เราเปิดรับวงดนตรีรุ่นใหม่ๆ ที่ไร้ค่ายแต่ไม่ไร้ฝีมือ เพื่อคัดเลือกมาเป็นวงเปิดให้กับงาน Music Playtime (มิวสิค เพลย์ไทม์) วงเหล่านี้จะเป็นศิลปินรุ่นใหม่ที่ทำตามฝัน และต้องการโอกาสที่จะได้แสดงผลงานของตนเองให้ทุกๆคนได้ฟังกัน พอจบงานก็คุยกันต่อสนับสนุนให้เขาได้มีผลงานอย่างต่อเนื่อง เช่น Clockwork Motionless (คล็อกเวิร์ก     โมชั่นเลส), Blues Tape (บลู เทป), West of East (เวสต์ออฟอีสต์), โคตรยิ้ม และ C/O GO! (ซีโอ โก)

     

    ศิลปินที่เป็นศิลปินอยู่แล้ว คุ้นหน้าคุ้นตาและยังทำเพลงของตัวเองอยู่ตลอด แต่ไม่อยากทำเองทุกอย่าง อยากทำเพลงก็มาคุยกันให้เขาทำเพลงให้สบายใจ เรื่องอื่นๆสนามหลวงมิวสิกดูแลให้ เช่น YOUNG MAN AND THE SEA (ยังแมนแอนด์เดอะซี), ภูมิจิต, Supersub (ซูเปอร์ซับ), Zero Hero (ซีโร่ ฮีโร่), The Pisat band (เดอะ ปีศาจ แบนด์), The Superglasses Ska Ensemble (เดอะ ซูเปอร์กลาสเซส สกา อองซองเบิล), Last Fight For Finish (ลาสไฟว์ทฟอร์ฟินนิช), TUAN Thailand (ทวน ไทยแลนด์), Sunny Day (ซันนี่เดย์) และ Dajim (ดาจิม)

     

    ศิลปินบางกลุ่มก็จะรวมตัวกันเป็นศิลปินอินดี้กลุ่มเล็กๆ ทำดนตรีของเขาอยู่แล้ว และอยากเพิ่มช่องทางเผยแพร่ให้แข็งแรงยิ่งขึ้น ก็มาคุยกันเพื่อเป็นพันธมิตรในการผลักดันให้เพลงเป็นที่รู้จักในวงกว้าง เช่น N.Y.T.E (เอ็น.วาย.ที.อี) จาก Yaak Lab (ย๊าค แล็ป), Casinotone (คาสิโนโทน) จาก Comet Records (โคเมท เรคคอร์ด) และเร็วๆนี้ก็จะมี The Passion of Anna (เดอะ แพชชั่น ออฟ แอนนา) จาก Summer Disc (ซัมเมอร์ ดิสก์) กลุ่มคนทำดนตรีจากเชียงใหม่ รวมถึง Rats Records (แรทส์ เรคคอร์ดส) ที่ดูแล Phum Viphurit (ภูมิ วิภูริศ) และ Henri Dunant (อังรี ดูนังต์) กับแผนการที่จะปล่อยเพลงภาษาไทยครั้งแรกของพวกเขาที่นี่ และล่าสุดกลุ่มโปรดิวเซอร์ฮิปฮอปแถวหน้าของเมืองไทย MVL : BOTCASH :  SUNNYDAY : MINDSET ในนาม PROJECT X (เอ็มวีแอล บอทแคช ซันนี่เดย์ มายเซ็ท ในนามโปรเจคเอ็กซ์) ก็มาปล่อยของกับสนามหลวงมิวสิก

    กลุ่มสุดท้าย หรือเรียกว่า Walk in คือเดินมาหาเราหลังจากที่สังกัดฯ เริ่มปล่อยเพลงของศิลปินอินดี้ต่างๆออกไป  ก็จะมีติดต่อเข้ามาพูดคุย ทางเราก็สนใจและตกลงทำงานด้วยกัน เช่น Pretty Punks (พริตตี้ พังก์), Ariy Shibuya (อารีย์ ชิบูย่า) และ Cut The Crab (คัท เดอะ แครป)

     

    ศิลปินอินดี้ที่ยังมองหาโอกาสในการสร้างสรรค์เพลงได้อย่างอิสระ แต่ยังไม่มีสนามในการปล่อยของ โชว์ของ ลองของ รวมถึงการสนับสนุนในช่องทางต่างๆเพื่อนำผลงานไปเผยแพร่ให้แฟนเพลงได้ฟัง ได้รับชม สามารถติดต่อได้ที่ FB Page : Sanamluang Music