NEWSROOM

  • Increase company value by investing in people
    2020-10-19 09:44:44

    “บอส” ผู้กำกับ ยกกองถ่าย เยือน “ภูเก็ต”

    ถือเป็นนักแสดงรุ่นใหม่ที่กำลังมาแรงสุด ๆ สำหรับ บิวกิ้น-พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล และ พีพี-กฤษฏ์ อำนวยเดชกร  ล่าสุดทั้งคู่กำลังจะมีผลงานทางการแสดงด้วยกันใน LINE TV Original Series “แปลรักฉันด้วยใจเธอ” (I told sunset about you)   ซีรีส์แนว Romantic Coming of Age ทำเอาแฟน ๆ ต่างก็ลุ้นกันสุดตัว  เพราะยังเดาใจไม่ออกว่าผู้กำกับ บอส-นฤเบศ กูโน  ที่เคยฝากผลงานใน ซีรีส์เรื่อง “Side by Side พี่น้องลูกขนไก่  และละครเรื่อง “My Ambulance รักฉุดใจนายฉุกเฉิน”  จะนำพาเรื่องราว“แปลรักฉันด้วยใจเธอไปในทิศทางไหน   งานนี้ บอส ขอทุ่มเทเต็มที่ โดยยกขบวนทีมงานกว่าร้อยชีวิต พร้อมด้วยทัพนักแสดง   สไมล์-ภาลฎา ฐิตะวชิระ,      ขุนพล-ปองพล ปัญญามิตรโรเล็กซ์-จิรายุส ขาวใบไม้, ดรีม-ธีธัต สุขอิ่ม, คริสเตียน-จุราพร บอส   ฯลฯ   ไปถ่ายทำกันถึงเมืองภูเก็ต

    บอส กล่าวว่า “เรายกกอง มาถ่ายทำที่ภูเก็ตเป็นเวลาเกือบสองเดือนครับ  ภูเก็ตคือจังหวัดที่ตอบโจทย์มาก  เพราะให้ความรู้สึกโรแมนติก มีทั้งทะเล ภูเขา   มีตึกรามบ้านช่องที่ดูเป็นสถาปัตยกรรมที่มีความพิเศษ   พออยากได้มู้ดของวัยรุ่นที่อยู่ในเมือง  เดินตามถนนที่ถ่ายทอดบรรยากาศของเมืองได้ ก็ทำให้นึกถึงโอล์ดทาว์นของภูเก็ต  เมืองนี้มีกลิ่นอายของวัฒนธรรม   ทั้งอาหารการกิน การอยู่อาศัย รู้สึกได้ถึงดีเทลที่มีเสน่ห์ของจังหวัดนี้ ซึ่งใช้เป็นฉากหลังของเรื่องนี้ได้    ส่วนเรื่องการถ่ายทำคือทั้งพีพีบิวกิ้นเจอโจทย์ที่ต้องชาเล้นจ์ตัวเองเยอะมาก   เพราะเรื่องอื่น ๆ  อาจจะมีนักแสดงคู่หลักหลายคู่   แต่ว่าเรื่องนี้ เก้าสิบเปอร์เซ็นต์คือเป็นคู่นี้เท่านั้น     ดังนั้นเลยต้องเข้าทุกฉาก เรียกว่าต้องปรับตัวกันขนานใหญ่  รวมไปถึงสภาพอากาศ  ที่มีทั้งฝนตกแดดออก  ทีมงานก็ต้องปรับเปลี่ยนแผนกันไปมา   ประทับใจเพราะสองคนนี้ก็คือลุยสุดใจ ลุยมาก  มีหลาย ๆ ฉากที่มีความท้าทาย ทั้งการแสดง ทั้งโปรดักชั่น  บางอย่างน้องเขาไม่เคยทำ แต่น้องก็เต็มที่ ก็ไปเรียนรู้กันใหม่  ทุ่มเทสุด ๆ   พอได้เห็นพัฒนาการของน้อง ๆ สำหรับบอส คือบอสภูมิใจมาก การแสดงในเรื่องนี้จะใช้เสน่ห์อย่างเดียวไม่ได้แล้ว ต้องมีสกิลด้วย อย่างฉากร้องไห้ หรือฉากดราม่า มีความซับซ้อน ที่จะแสดงออกถึงความรูสึกไม่เท่ากัน ซึ่งน้องก็ต้องทำการบ้านเยอะขึ้น ดีที่สองคนเขาช่วยซัพพอร์ตกัน     ถ้ามีฉากที่บิวกิ้นร้องไห้ไม่ได้ พีพีก็จะมาคอยช่วย ยืนส่งความรู้สึกให้  ส่วนพีพีจะเป็นคนที่เล่นฉากสดใสยาก พอจะให้เขากระดี๊กระด๊าก็ต้องมีบิวกิ้นคอยมาช่วยแหย่ ช่วยแกล้ง      ก็ถือว่าเขาส่งพลังงานให้กัน อันนี้คือข้อดี ที่จะทำให้ทั้งคู่ค่อย ๆ เก่งขึ้นไปด้วยกัน     สำหรับเรื่องนี้ส่วนตัวบอสเอง บอกเลยว่าเป็นงานกำกับที่รู้สึกกดดัน  เป็นความกดดันที่เราอยากทำให้มันออกมาดี    เพราะที่มีคนรอดูอยู่    ไม่ว่าจะเป็นแฟนคลับน้อง ๆ รวมถึงแฟน ๆ ของนาดาว  ที่รอคอยและลุ้นอยากดูซีรีส์เรื่องนี้กันเยอะมาก   ก็อยากจะอ้อนน้อง ๆ   แฟนคลับและคนดูทุกคนว่า  อยากให้ทุกคนรอติดตาม อยากให้ดูกันด้วยความสนุก เพราะเรื่องนี้มีหลากหลายรสชาติ   และมีน้อง ๆ นักแสดงรุ่นใหม่ที่มาร่วมสร้างสีสันอีกเพียบ  เรื่องนี้ทุกคนจะได้เห็นการเติบโตของตัวละคร ก็เหมือนกับช่วงชีวิตคน สำหรับเด็กมัธยม การสอบก็อาจเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ของเด็กในโมเม้นต์นั้น เป็นช่วงที่เรากำลังเริ่มต้นการเรียนรู้ อะไรเป็นครั้งแรก ๆ รวมถึงเรื่องการเรียน กับสนามสอบครั้งใหญ่ ที่ตอนนั้นเราจะรู้สึกว่าสิ่งนี้คือการเดิมพันของชีวิต ว่าความฝันเราจะไปอยู่ที่จุดไหน รวมถึงเรื่องความรักด้วย   ครั้งแรกที่เรากล้าเปิดความรู้สึกกับใครสักคน เป็นการท้าทายความรู้สึกใหม่ ๆ ที่ไม่เคยเจอ  เปิดประสบการณ์ของตัวละครในหลาย ๆ มิติ  รวมถึงเรื่องครอบครัว  ตัวละครกำลังตัดสินใจที่จะก้าวข้ามอะไรบางอย่าง  เราจะได้เห็นการเติบโตของตัวละครไปด้วยกันครับ”                                                                                      

    อยากรู้ว่าตัวละครเต๋” (บิวกิ้น) และ โอ้เอ๋ว” (พีพี) มีจุดเริ่มต้นอย่างไร  อะไรทำให้ทั้งคู่ไม่ลงรอยกัน และเส้นทางต่อกจากนี้จะเป็นอย่างไร  ติดตามชม LINE TV Originals Series     “แปลรักฉันด้วยใจเธอ โดย นาดาว บางกอก ร่วมกับ  LINE TV  ตอนใหม่ทุกวันพฤหัสบดี เวลา 20.00 . เริ่มวันพฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคมนี้ บน LINE TV  เท่านั้น