-
2016-11-16 16:23:37โกไข่ สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ แต่งเพลง คิดถึงพ่อหลวง แทนใจลูกๆ ทั่วประเทศ
ถึงแม้ว่าจะผ่านมาแล้ว 1 เดือนกับการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช แต่ความเศร้าโศกเสียใจก็ยังคงอยู่มิรู้หายไปจากหัวใจของพสกนิกรชาวไทยแม้แต่น้อย ซึ่งก็รวมไปถึง โกไข่ จุมพล ทองตัน ศิลปินจากสังกัดแกรมมี่ โกลด์ เพราะถ้าให้ย้อนไปเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม จากวันนั้นจนถึงวันนี้ เมื่อใดก็ตามที่โกไข่ได้ดูสารคดีที่เกี่ยวกับในหลวง รัชกาลที่ 9 น้ำตาแห่งความโศกเศร้าเสียใจก็จะพรั่งพรูออกมาอย่างไม่ขาดสาย จนทำให้โกไข่ต้องแต่งเพลง “คิดถึงพ่อหลวง” ขึ้นมาเพื่อเตือนสติตัวเองและลูกๆ ของพ่อหลวงทุกคน ซึ่งกว่าจะแต่งเพลงนี้ก็ใช้เวลาหลายวันพอสมควร เพราะเมื่อจับปากกาจะเขียนเพลงเมื่อใด น้ำตาก็ไหลโดยอัตโนมัติทันที โดยโกไข่เปิดใจถึงแรงบันดาลใจในการเขียนเพลง “คิดถึงพ่อหลวง” ในครั้งนี้ว่า
“โกว่าการสูญเสียพระองค์ท่านเป็นการสูญเสียที่มันเกินกว่าคำใดที่จะมาอธิบายได้ มันยิ่งใหญ่แล้วเราก็ตั้งตัวไม่ทันว่าพระองค์ท่านไม่อยู่จริงๆ แต่ว่าความจริงก็คือความจริง เราต้องเดินหน้าต่อไปโดยน้อมนำแนวพระราชดำริในหลวงมาดำเนินชีวิต ซึ่งโกเขียนเพลงนี้ในแนวทางนี้ โกไม่ได้พูดถึงความเศร้าจนเกินไปเพราะว่าบ้านเมืองเราต้องเดินหน้าโกก็เลยสรุปตอนท้ายของเพลงว่า ‘ประชาชนของพระองค์จะเดินตามรอยความดีของพระองค์ท่าน พ่อเหนื่อยพอแล้ว พ่อทำมามากพอแล้วมาทั้งชีวี ประชาชนของพ่อนี้จะเดินตามรอยความดีของพ่อ เช็ดน้ำตาให้แห้งจะได้มีแรงเดินตามพ่อหลวง’ คือโกพูดในมุมที่เราต้องเดินหน้ากันแล้ว ช่วงแรกพยายามเขียนก็เขียนไม่ออก เขียนมันก็ร้องไห้เขียนปุ๊ปมันก็ร้องไห้ก็หยุดเขียนไปก่อน อีกสองวันมาเขียนใหม่ก็ร้องไห้อีก โดก็นั่งนึกว่าเราจะเอาสมาธิตรงไหนมาเขียน มันเหมือนเขียนเพลงบอกตัวเองนะว่าโกหยุดเศร้าได้แล้ว หยุดร้องไห้ได้แล้ว สิ่งที่พระองค์ท่านทำมาตลอดมันตรึงตราอยู่ในหัวใจเรา แล้วการที่โกนำสำเนียงใต้ท้องถิ่นมาใส่ไว้ในบทเพลงก็เป็นการทำตามพ่อหลวงที่ให้เราสำนึกในรากเหง้าแผ่นดินเกิด ก็เป็นเรื่องที่ในหลวงท่านทรงทำมาตลอด ในหลวงท่านไม่ได้เสด็จต่างประเทศนานแล้วนะครับพอท่านบอกว่าไม่ไปก็คือไม่ไปเลย เพราะท่านทรงรักแผ่นดินเกิดรักประชาชนของท่าน แนวคิดต่างๆ ของพระองค์ท่านเราควรนำมาใช้จริงๆ เสียทีแล้วจะเป็นประโยชน์กับประเทศชาติมากๆ การสูญเสียครั้งนี้บางทีคนจะพูดว่าประเทศไทยเราไม่เคยได้รับผลกระทบรุนแรงทางความรู้สึกพร้อมกันก็เลยไม่มีอะไรมากระตุ้น อย่างญี่ปุ่นเจอปรมาณูก็เจ็บปวดพร้อมกันครั้งนึงแล้วก็กลับมาฮึดสู้ โกอยากให้การสวรรคตของพระองค์ท่านที่เราเสียใจกันมากมายอยู่ในตอนนี้ ให้เป็นพลังแห่งความรักเหมือนที่เกิดขึ้นที่สนามหลวงที่เอาข้าวมาแจก เอาร่มมาบริจาค ผู้หญิงใครที่ผมเผ้าไม่เรียบร้อยจะมีเจ้าหน้าที่คอยเกล้าผมให้ฟรี ดูแลเสื้อผ้าใบหน้าทรงผมให้เรียบร้อยแบบเนี๊ยะ ถ้าสิ่งนี้มันอยู่ในสังคมเราตลอดไป มันจะดีงามมากๆ เลย”
โกไข่ได้ทิ้งท้ายข้อคิดไว้ให้กับลูกๆ ของพระองค์ท่านทุกคนอีกด้วยว่า “พวกเราต้องเดินหน้ากันต่อไป ชีวิตมนุษย์ทุกคนเราดูพระองค์ท่านเป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ก็จริงแต่พระองค์ท่านก็คือมนุษย์ที่เกิดมาเหมือนพวกเราเพียงแต่ว่า ท่านทรงเป็นกษัตริย์ที่ไม่ได้ถือพระองค์ ท่านปฏิบัติตัวต่อพสกนิกรของท่านเหมือนพ่อคุยกับลูกปกติทั่วไป แต่พอเป็นมนุษย์ธรรมดาเรื่องเกิด แก่ เจ็บ ตาย มันเป็นเรื่องปกติ ถึงแม้ว่าเราจะมีความเสียใจอย่างประมาณค่าไม่ได้ แต่ว่าก็ขอให้เข้าใจไว้ว่านี่คือสัจธรรมของชีวิตอีกข้อหนึ่ง สิ่งที่เราทำได้ตอนนี้คือทำดี เอาแนวคิดของพระองค์ท่านที่ทุกอย่างเป็นสิ่งที่ดีหมดมาปรับใช้กับตัวเราเอง โกว่าทำแบบนี้จะทำให้พระองค์ท่านอยู่กับเราตลอดไป ถึงแม้ตัวท่านจากไปแต่ว่าความดีของพระองค์ท่านที่ทรงทำไว้ ถ้าเรานำมาใช้นำไปสานต่อก็จะทำให้พระองค์ท่านอยู่กับพวกเราไปตลอดกาล ขอให้จิตใจของทุกคนเข้มแข็งในเร็ววันครับ”
